เควิน เดอ บรอยน์ อาจอำลาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจบฤดูกาล

เควิน เดอ บรอยน์ อาจอำลาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจบฤดูกาล: สัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่?

เดอ บรอยน์

เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเปิดเผยถึงโอกาสที่เขาอาจอำลาทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของเจ้าตัว ซึ่งนับเป็นข่าวใหญ่สำหรับแฟนบอลทั่วโลก

เส้นทางอาชีพและความสำคัญของ เดอ บรอยน์

เดอ บรอยน์ ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ปี 2015 และกลายเป็นกำลังสำคัญที่พาทีมคว้าถ้วยแชมป์มากมายตลอด 10 ฤดูกาลที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ กองกลางวัย 33 ปี ต้องเผชิญกับ อาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลงสนามได้ไม่เต็มที่ และส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีมอย่างชัดเจน

อนาคตที่ยังไม่แน่นอน

ล่าสุด เดอ บรอยน์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง หลังสัญญาปัจจุบันของเขากับทีมกำลังจะหมดลงเมื่อจบฤดูกาลนี้ โดยเขาเปิดเผยว่า:

“ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ตอนเริ่มฤดูกาล เรามีแผนเจรจาเรื่องสัญญาใหม่ แต่ผมกลับได้รับบาดเจ็บและต้องพักนานถึง 8-9 สัปดาห์ ตอนนี้ผมแค่อยากกลับมาลงสนาม ส่วนเรื่องอนาคตคงต้องรอดู”

คำพูดดังกล่าวสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในเส้นทางอาชีพของเขา ซึ่งหากไม่มีการต่อสัญญาใหม่ ฤดูกาลนี้อาจเป็นปีสุดท้ายที่เราจะได้เห็นเขาในสีเสื้อของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผลกระทบต่อทีมและแฟนบอล

การขาดหายไปของ เดอ บรอยน์ ส่งผลต่อฟอร์มโดยรวมของทีมในฤดูกาลนี้อย่างชัดเจน โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายแพ้มาแล้วถึง 5 นัดติดต่อกัน ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่น่ากังวลสำหรับทีมที่เคยครองความยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีก

ขณะเดียวกัน ข่าวของ เดอ บรอยน์ ยังเกิดขึ้นในช่วงที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงของลิเวอร์พูล กำลังพิจารณาอนาคตของตัวเองเช่นกัน ทำให้แฟนบอลทั้งสองทีมต้องจับตามองสถานการณ์ของนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์อย่างใกล้ชิด

เกมสำคัญที่กำลังมาถึง

แม้ว่า เดอ บรอยน์ จะยังไม่ได้ลงสนามในฤดูกาลนี้ถึง 10 นัด แต่แฟนบอลยังคงมีความหวังว่าจะได้เห็นเขากลับมาช่วยทีมในเกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่จะพบกับ เฟเยนูร์ด ในวันพุธนี้

บทสรุป

อนาคตของ เควิน เดอ บรอยน์ ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือเขายังคงเป็นนักเตะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้และวงการฟุตบอล การตัดสินใจของเขาหลังจบฤดูกาลนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งทีมและแฟนบอลทั่วโลก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลล่าสุดได้ที่นี่ เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว!

ฮัมบูร์ก และ เลสเตอร์ เตรียมจ่อทาบ รุด ฟาน นิสเตลรอย คุมทีม

ฮัมบูร์ก และ เลสเตอร์ เตรียมจ่อทาบ รุด ฟาน นิสเตลรอย คุมทีม

ฮัมบูร์ก และ เลสเตอร์ เตรียมจ่อทาบ รุด ฟาน นิสเตลรอย

ฮัมบูร์ก และ เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังตกเป็นข่าวอย่างหนักว่ากำลังเตรียมการทาบทาม รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตหัวหอกระดับตำนานของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ให้เข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชคนใหม่ หลังเจ้าตัวยังคงว่างงานตั้งแต่สิ้นสุดภารกิจการเป็นกุนซือชั่วคราวให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ฮัมบูร์ก พร้อมดึงกุนซือใหม่หลังปลด ชเตฟเฟ่น เบาม์การ์ต

ตามรายงานข่าวล่าสุด ฮัมบูร์ก ซึ่งเพิ่งแยกทางกับเฮดโค้ชคนก่อนหน้าอย่าง ชเตฟเฟ่น เบาม์การ์ต กำลังมองหาตัวเลือกใหม่สำหรับการยกระดับทีม โดยมีชื่อของ รุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นตัวเต็งอันดับหนึ่ง อดีตกองหน้าวัย 47 ปีเคยค้าแข้งกับฮัมบูร์กช่วงสั้น ๆ ในปี 2010-2011 และได้รับความชื่นชอบจากแฟนบอลเป็นอย่างมาก การกลับมาของเขาในฐานะกุนซือจึงอาจช่วยเพิ่มความหวังให้กับทีมและแฟนคลับได้ไม่น้อย

เลสเตอร์ ซิตี้ หวังพลิกสถานการณ์ด้วยกุนซือใหม่

อีกหนึ่งทีมที่มีข่าวพัวพันกับ รุด ฟาน นิสเตลรอย คือ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาในฤดูกาลนี้ มีรายงานว่าทีมจิ้งจอกสยามกำลังพิจารณาปลด สตีฟ คูเปอร์ เฮดโค้ชปัจจุบัน หลังจากผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ และ รุด ฟาน นิสเตลรอย ถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการพาทีมกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

ผลงานที่ผ่านมาของ รุด ฟาน นิสเตลรอย

แม้จะไม่มีประสบการณ์คุมทีมในระดับสูงมากนัก แต่ในบทบาทกุนซือชั่วคราวให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รุด พาทีมลงสนาม 4 นัด เก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัดและเสมอ 1 นัด ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจสำหรับการเริ่มต้นเส้นทางในฐานะกุนซือ

ด้วยชื่อเสียงและประสบการณ์ทั้งในฐานะนักเตะและโค้ช รุด ฟาน นิสเตลรอย ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองสำหรับทั้งสองทีมในช่วงเวลาสำคัญนี้ แฟนบอลต้องรอลุ้นว่าคำตอบสุดท้ายของเขาจะเป็นการเริ่มต้นบทบาทใหม่ในเยอรมนีหรืออังกฤษ

คอนเต้ยอมรับนาโปลียังมีจุดที่ต้องปรับ แม้เฉือนโรม่า 1-0

คอนเต้ยอมรับนาโปลียังมีจุดที่ต้องปรับ แม้เฉือนโรม่า 1-0

คอนเต้

อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือของนาโปลี ยอมรับว่าทีมยังมีหลายจุดที่ต้องปรับปรุง แม้จะเพิ่งเอาชนะโรม่า 1-0 ในศึกเซเรีย อา เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การคว้าชัยในนัดนี้ทำให้นาโปลีกลับมาทวงจ่าฝูงได้สำเร็จ โดยตอนนี้มี 29 คะแนนจาก 13 นัด

หลังจบเกม คอนเต้ได้พูดถึงจุดที่ทีมยังต้องพัฒนา ผ่านการสัมภาษณ์กับสกาย สปอร์ต อิตาเลีย ว่า “ก่อนเริ่มเกม ผมบอกให้ลูกทีมโฟกัสที่การพัฒนาตัวเอง ไม่ต้องสนใจตารางคะแนน สิ่งสำคัญคือการปรับปรุงในสิ่งที่เราทำกันมาอย่างต่อเนื่อง”

“แม้เราจะพอใจกับผลงานในช่วง 65 นาทีแรก แต่เราควรทำได้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะการคว้าโอกาสให้มากขึ้น เราต้องระมัดระวังลูกตั้งเตะให้ดีขึ้น เพราะโรม่ามีจังหวะที่เกือบจะทำประตูจากลูกตั้งเตะ”

คอนเต้ยังกล่าวเสริมว่า “โรม่ามีความกระหายหลังการเปลี่ยนโค้ชมาใหม่ (เคลาดิโอ รานิเอรี่) ซึ่งทำให้พวกเขามีพลังในการพิสูจน์ตัวเอง แต่ในช่วงท้ายเกม เราสามารถรับมือได้ดีกว่าเดิม แม้ว่าเราจะถอยลงไปตั้งรับลึกเกินไป ซึ่งทำให้เกิดความยากลำบากในช่วงนั้น”

แม้ว่าจะชนะและกลับสู่ตำแหน่งจ่าฝูง คอนเต้ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงทีมต่อไป เพื่อรักษาความแข็งแกร่งในเส้นทางที่เหลือของฤดูกาล.

อาร์เน่อ ชื่นชมลูกทีม หลังเร่งเครื่องคว้า 3 แต้มสำคัญ

อาร์เน่อ ชื่นชมลูกทีม หลังเร่งเครื่องคว้า 3 แต้มสำคัญ

อาร์เน่อแฮปปี้

ลิเวอร์พูล เฉือน เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 ยังคงนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อเนื่อง

อาร์เน่อ สล็อต เฮดโค้ชของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แสดงความพอใจกับฟอร์มการเล่นของลูกทีม หลังจากบุกเอาชนะ “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ผ่านมา โดยชัยชนะครั้งนี้ช่วยให้ลิเวอร์พูลยังคงครองตำแหน่งจ่าฝูง พร้อมทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 ถึง 8 คะแนน ก่อนเกมสำคัญในสัปดาห์หน้า

การแข่งขันที่ไม่ง่าย แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

เกมนี้ ลิเวอร์พูลเริ่มต้นได้ดีจากประตูของ โดมินิค โซโบสไล แต่ถูกเซาธ์แฮมป์ตันตามตีเสมอก่อนจบครึ่งแรก 1-1 และในช่วงต้นครึ่งหลัง เจ้าถิ่นพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 อย่างไรก็ตาม ความสามารถและประสบการณ์ของทีม “หงส์แดง” ได้แสดงออกมาเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำสองประตูสำคัญช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 3-2

อาร์เน่อยกย่องลูกทีม: “ความเข้มข้นคือกุญแจสำคัญ”

หลังจบเกม อาร์เน่อ สล็อต กล่าวชื่นชมลูกทีมว่า:

“ครึ่งหลังเราแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นและความมุ่งมั่นในการเล่นมากขึ้น เซาธ์แฮมป์ตันสร้างปัญหาให้คู่แข่งหลายทีม และวันนี้ก็ไม่ต่างกัน แม้ว่าเราจะครองเกมได้ แต่การเจาะเกมรับที่แน่นหนาในระบบ 4-5-1 ไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงต้องเร่งกดดันและสร้างโอกาสจนสำเร็จ”

เขายังเสริมว่า ทีมสามารถควบคุมเกมได้ดี โดยเซาธ์แฮมป์ตันมีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษเพียง 2 ครั้ง

“สกอร์ที่สูสีทำให้เกมดูยากกว่าที่ควร แต่ 3 คะแนนนี้ถือว่าสมควรแล้วสำหรับเรา”

สองเกมใหญ่รออยู่

อาร์เน่อยังพูดถึงความสำคัญของเกมต่อไปที่จะพบกับสองทีมชั้นนำอย่าง เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

“พวกเขาเป็นทีมระดับโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การชนะในวันนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนเข้าสู่สองเกมใหญ่ที่รออยู่”

บทสรุป

ชัยชนะครั้งนี้ตอกย้ำความแข็งแกร่งของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ การเตรียมตัวและความมุ่งมั่นของทีมภายใต้การนำของอาร์เน่อ สล็อต ทำให้แฟนบอลมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยมสำหรับความสำเร็จทั้งในลีกและการแข่งขันระดับยุโรปที่กำลังจะมาถึง

ตามคาด! เลสเตอร์ ซิตี้ ปลด สตีฟ คูเปอร์ พ้นตำแหน่งกุนซือ

ตามคาด! เลสเตอร์ ซิตี้ ปลด สตีฟ คูเปอร์ พ้นตำแหน่งกุนซือ

สตีฟ คูเปอร์

เลสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจสั่งปลด สตีฟ คูเปอร์ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม หลังพาทีมร่วงลงไปอยู่อันดับ 16 ของตารางพรีเมียร์ลีก หลังผ่านการแข่งขัน 12 นัดในฤดูกาลนี้

การปราชัยที่ตอกย้ำปัญหา

ผลงานที่ย่ำแย่ของ “จิ้งจอกสยาม” สะท้อนชัดเจนจากเกมล่าสุดที่พวกเขาแพ้คาบ้าน 1-2 ต่อ เชลซี ซึ่งนำทัพโดย เอ็นโซ่ มาเรสก้า อดีตกุนซือของเลสเตอร์เอง ความพ่ายแพ้ดังกล่าวทำให้ทีมมีคะแนนนำโซนตกชั้นเพียง 2 แต้ม สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อบอร์ดบริหาร

เส้นทางของคูเปอร์กับเลสเตอร์

สตีฟ คูเปอร์ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แทนที่เอ็นโซ่ มาเรสก้า ซึ่งพาเลสเตอร์คว้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ และเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม คูเปอร์ไม่สามารถพาทีมรักษาฟอร์มเก่งในลีกสูงสุดได้

ก่อนหน้านี้ คูเปอร์สร้างชื่อจากการพา น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2022 และช่วยให้ทีมรอดพ้นการตกชั้นในฤดูกาลแรก แต่ผลงานในซีซั่น 2023-24 กลับดิ่งลง จนถูกปลดในเดือนธันวาคม 2023

แถลงการณ์จากเลสเตอร์

เลสเตอร์ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ขณะนี้ทีมชุดใหญ่จะอยู่ภายใต้การดูแลของ เบน ดอว์สัน โค้ชทีมชุดใหญ่ ร่วมกับ แดนนี่ อัลค็อก และ แอนดี้ ฮิวจ์ส จนกว่าสโมสรจะหาผู้จัดการทีมคนใหม่ได้

“สโมสรได้เริ่มกระบวนการสรรหาผู้จัดการทีมคนใหม่ และเราหวังว่าจะได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด”

เส้นทางการคุมทีมของคูเปอร์

สตีฟ คูเปอร์ เคยสร้างประวัติศาสตร์พาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2017 ก่อนจะเริ่มต้นเส้นทางในระดับสโมสร ด้วยการพาทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และเลสเตอร์ ซิตี้ สัมผัสความสำเร็จในระดับแชมเปี้ยนชิพ แม้ไม่สามารถรักษาผลงานในพรีเมียร์ลีกได้

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นอีกบทพิสูจน์ว่า พรีเมียร์ลีกยังคงเป็นลีกที่โหดร้ายสำหรับผู้จัดการทีมที่ไม่สามารถพาทีมรักษาฟอร์มการเล่นได้ต่อเนื่อง.

กาลาตาซารายเล็งคว้าตัว ซน ฮึง-มิน เสริมทัพลุยลีกตุรกี

กาลาตาซารายเล็งคว้าตัว ซน ฮึง-มิน เสริมทัพลุยลีกตุรกี

กาลาตาซารายเล็งคว้าตัว ซน ฮึง-มิน

กาลาตาซาราย ยอดทีมจากลีกตุรกี กำลังตกเป็นข่าวเตรียมเดินหน้าคว้าตัว ซน ฮึง-มิน สตาร์ดังจาก ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้ หลังจากต้องเจอกับปัญหาบาดเจ็บของกองหน้าคนสำคัญ เมาโร อิคาร์ดี้ ที่ได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้เข่าด้านหน้า (ACL) ซึ่งอาจต้องพักฟื้นยาวหลายเดือน

ตามรายงานจาก Fanatik ระบุว่า กาลาตาซาราย วางแผนที่จะใช้โอกาสจากสถานการณ์ของซน ฮึง-มิน ที่สัญญากับสเปอร์สกำลังจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งทำให้ค่าตัวของดาวเตะเกาหลีใต้อาจลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ หากการเจรจาสัญญาใหม่ยังไม่มีความคืบหน้าหลังวันที่ 1 มกราคม นักเตะสามารถพูดคุยและเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับสโมสรอื่นได้

สำหรับผลงานของ ซน ฮึง-มิน ในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวลงสนามให้กับสเปอร์สไปแล้ว 11 นัดในทุกรายการ ทำได้ 3 ประตูและ 3 แอสซิสต์ ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นและประสบการณ์ในลีกยุโรป ซนถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกาลาตาซารายในการเติมเต็มเกมรุก

นาเกลส์มันน์ยัน เตรียมโรเตชั่นทีมหลายนัดส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

นาเกลส์มันน์

ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือทีมชาติเยอรมัน ยืนยันว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายตำแหน่ง ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024-25 นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ลีก เอ กลุ่ม 3 โดย “อินทรีเหล็ก” มีคิวบุกเยือนทีมชาติฮังการี คืนวันอังคารนี้

เยอรมันฟอร์มร้อนแรง คว้าแชมป์กลุ่มไปแล้ว

ทีมชาติเยอรมันโชว์ฟอร์มแกร่งในรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการชนะ 4 เสมอ 1 มี 13 คะแนน ครองแชมป์กลุ่มพร้อมผลงานการยิงประตูถึง 17 ลูก และเสียเพียง 3 ลูกเท่านั้น โดยในเกมล่าสุดพวกเขาเปิดบ้านถล่มบอสเนียฯ 7-0 อย่างไร้ความปราณี

แม้ว่าเกมนัดนี้จะไม่มีผลต่อการเข้ารอบ แต่นาเกลส์มันน์ยืนยันว่าจะใช้โอกาสนี้ในการทดลองทีม และให้นักเตะสำรองลงสนาม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันรายการต่อไป

นาเกลส์มันน์เผย แผนโรเตชั่นเน้นความฟิตนักเตะ

นาเกลส์มันน์เปิดเผยถึงแผนการเปลี่ยนแปลงทีมว่า อาจมีการปรับตำแหน่งผู้เล่นมากถึง 9-10 คน โดยคำนึงถึงความฟิตของนักเตะ และการสนับสนุนสโมสรต่าง ๆ เป็นสำคัญ

“ผมคิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจำนวนมาก เราอาจปรับถึง 9 หรือ 10 คน แต่บางครั้งอาจจะน้อยเพียง 4 ตำแหน่ง ซึ่งทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับการซ้อมครั้งสุดท้าย” – นาเกลส์มันน์ กล่าว

เป้าหมายระยะยาวคือการพัฒนาทีม

แม้จะผ่านเข้ารอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่นาเกลส์มันน์ย้ำว่าทีมยังมีแรงจูงใจสูง เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ใกล้เข้ามา และการทดลองทีมในนัดนี้จะเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมแกร่งให้กับทีม

“เราไม่มีเวลามากนักในการเตรียมตัวสำหรับฟุตบอลโลก 2026 ดังนั้นทุกเกมมีความสำคัญต่อการพัฒนาทีม”

ติดตามข่าวสารฟุตบอลยุโรปและยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกได้ที่นี่ พร้อมอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของทีมชาติเยอรมันแบบเจาะลึก

โครเอเชียและเดนมาร์ก ลิ่วน็อคเอาท์! สกอตแลนด์คว้าชัยแต่ไม่พอในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25

ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25

โครเอเชีย และเดนมาร์ก ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25 หลังเกมนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มจบลงอย่างเข้มข้น โดยแม้ว่าสกอตแลนด์จะบุกเอาชนะโปแลนด์ 2-1 แต่ผลการแข่งขันจากอีกคู่ทำให้พวกเขาต้องพลาดโอกาสไปต่อ

สกอตแลนด์ชนะโปแลนด์ 2-1 แต่ยังไม่เพียงพอ

ในกลุ่ม 1 สกอตแลนด์ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะโปแลนด์ 2-1 โดยได้ประตูชัยจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในนาทีที่ 90+3 ก่อนหน้านั้น จอห์น แม็คกินน์ ยิงเปิดเกมให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 3 อย่างไรก็ตาม โปแลนด์ตามตีเสมอได้จาก คามิล เพียตคอฟสกี้ ในนาทีที่ 59

แม้จะคว้าชัยในนัดนี้ แต่สกอตแลนด์ยังต้องผิดหวัง เพราะผลการแข่งขันในอีกคู่ระหว่างโครเอเชียและโปรตุเกสจบลงด้วยการเสมอ 1-1 ทำให้โครเอเชียมี 8 คะแนน จบอันดับ 2 ของกลุ่มและผ่านเข้ารอบพร้อมโปรตุเกส

โครเอเชียยันเสมอโปรตุเกส 1-1 ผ่านเข้ารอบตามเป้า

โครเอเชียโชว์ฟอร์มเหนียวแน่นในการเปิดบ้านเสมอกับโปรตุเกส 1-1 โดยทีมเยือนขึ้นนำก่อนจาก ชูเอา เฟลิกซ์ ในนาทีที่ 33 ก่อนที่โครเอเชียจะตีเสมอในครึ่งหลังจากลูกยิงของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ในนาทีที่ 66

ผลเสมอนัดนี้เพียงพอให้โครเอเชียคว้าอันดับ 2 ของกลุ่มและผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ส่วนโปรตุเกสเก็บ 14 คะแนน คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง

เดนมาร์กบุกเสมอเซอร์เบีย ลิ่วน็อคเอาท์ตามสเปน

ในกลุ่ม 4 เดนมาร์กทำผลงานได้ตามเป้าหมายด้วยการบุกเสมอเซอร์เบีย 0-0 เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนน ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม

ส่วนอีกคู่ สเปน ทำผลงานยอดเยี่ยมเฉือนชนะสวิตเซอร์แลนด์ 3-2 คว้าแชมป์กลุ่มด้วยการเก็บ 16 คะแนนจากการชนะ 5 เสมอ 1

สรุปทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25

  • ลีก เอ กลุ่ม 1: โปรตุเกส (แชมป์กลุ่ม), โครเอเชีย
  • ลีก เอ กลุ่ม 2: ฝรั่งเศส (แชมป์กลุ่ม), อิตาลี
  • ลีก เอ กลุ่ม 3: เยอรมัน (แชมป์กลุ่ม), เนเธอร์แลนด์
  • ลีก เอ กลุ่ม 4: สเปน (แชมป์กลุ่ม), เดนมาร์ก

โปรแกรมและกำหนดการรอบน็อคเอาท์

  • จับสลากประกบคู่: 22 พฤศจิกายน 2024
  • การแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย (เหย้า-เยือน):
    • เลกแรก: 20 มีนาคม 2025
    • เลกสอง: 23 มีนาคม 2025

ติดตามความเคลื่อนไหวของศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25 ได้ที่นี่!

เอเยนต์ยืนยัน Neymar ยังไม่ย้าย ขอค้าแข้งต่อในซาอุฯ

เอเยนต์ยืนยัน Neymar ยังไม่ย้าย ขอค้าแข้งต่อในซาอุฯ

 

Neymar

เนย์มาร์กับข่าวลือซานโตส

ในช่วงเวลาที่ข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของ เนย์มาร์ แพร่สะพัดในวงการฟุตบอล ล่าสุด ปินี ซาฮาวี่ เอเยนต์ส่วนตัวของเขา ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวที่อ้างว่า เนย์มาร์เตรียมยกเลิกสัญญากับ อัล-ฮิลาล เพื่อย้ายกลับไปร่วมทีม ซานโตส สโมสรแรกที่เขาแจ้งเกิดในฐานะดาวรุ่ง

สถานการณ์ปัจจุบันของเนย์มาร์

ปัจจุบัน เนย์มาร์ต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เขาไม่สามารถลงสนามช่วยทีมอัล-ฮิลาลได้ตามที่สโมสรและแฟนบอลคาดหวัง ความผิดหวังในผลงานของเขาทำให้เกิดข่าวลือหนาหูว่า ซานโตส เตรียมดึงตัวเขากลับไปเล่นในลีกบราซิลอีกครั้ง โดยมองว่าเขาเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในอดีต

เอเยนต์ยืนยัน: เนย์มาร์ยังอยู่ซาอุฯ

อย่างไรก็ตาม ปินี ซาฮาวี่ ได้ออกมายืนยันชัดเจนว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมชี้แจงว่า เนย์มาร์ยังคงมีความสุขกับการค้าแข้งในลีกซาอุดีอาระเบีย และไม่มีแผนย้ายออกในตอนนี้

เขากล่าวว่า

“ตอนนี้ยังไม่มีการเจรจาใดๆ เกี่ยวกับเนย์มาร์ที่จะออกจากอัล-ฮิลาล เนย์มาร์ยังคงมีสัญญาและมีความสุขดี พ่อของเขาและผมเท่านั้นที่สามารถพูดถึงอนาคตของเขาได้ ผมไม่ทราบว่า ข่าวลือล่าสุดนี้มาจากไหนกัน?”

เนย์มาร์กับอนาคตในซาอุดีอาระเบีย

แม้ว่าอาการบาดเจ็บจะเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับเนย์มาร์ในช่วงนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขายังมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองในลีกซาอุดีอาระเบียต่อไป การยืนยันจากเอเยนต์ของเขาถือเป็นการตัดกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการย้ายกลับซานโตสในระยะเวลาอันใกล้


เนย์มาร์ยังคงเป็นชื่อที่ได้รับความสนใจในวงการฟุตบอลโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝีเท้า ผลงานในสนาม หรือข่าวลือต่างๆ แฟนบอลคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าเขาจะสามารถฟื้นตัวและกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ในสนามได้อีกครั้งหรือไม่