รูเบน ดิอาส ย้ำ แมนฯ ซิตี้ โฟกัสแค่เกมพบฟอเรสต์ หลังพ่ายลิเวอร์พูล

รูเบน ดิอาส กองหลังคนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงจุดยืนชัดเจนว่าทีมจะทุ่มเททั้งหมดเพื่อเกมต่อไป หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 0-2 ที่สนามแอนฟิลด์ในเกมล่าสุด ซึ่งทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ไม่ชนะติดต่อกันถึง 7 เกม แบ่งเป็นแพ้ 6 เสมอ 1 และตกลงมาอยู่อันดับ 5 ในตารางพรีเมียร์ลีก ตามหลังจ่าฝูง “หงส์แดง” ถึง 11 คะแนน

ดิอาสกล่าวว่า แม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทีม แต่ทุกคนในทีมยังคงมีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม โดยเกมที่จะพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในวันพุธที่จะถึงนี้ เป็นสิ่งที่ทีมโฟกัสอยู่ในขณะนี้

“แน่นอนว่ามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ง่าย แต่เราถูกสร้างมาเพื่อเผชิญหน้าและก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้” ดิอาสกล่าว “วันนี้เราแสดงให้เห็นถึงบุคลิกของทีม และนั่นคือสิ่งที่จะช่วยให้เรากลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง”

กองหลังชาวโปรตุเกสยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของความคิดเชิงบวกในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมชี้ว่า น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คือสิ่งเดียวที่ทีมคิดถึงในขณะนี้

“ชัยชนะจะเกิดขึ้นได้จากการทำงานหนักและความสามัคคีในทีม เรามีผู้ชนะมากมายในห้องแต่งตัว และในสถานการณ์แบบนี้ เราจำเป็นต้องคิดทีละเกม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คืองานต่อไปของเรา และเราต้องการชัยชนะเพื่อพลิกสถานการณ์นี้กลับมา”

ดิอาสยังพูดถึงการเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ และเชื่อว่าทีมสามารถสร้างมรดกที่แข็งแกร่งต่อไปได้

“ฟุตบอลเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของชีวิต บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังเป็นไปได้ด้วยดี แต่มันอาจพลิกกลับมาเล่นงานคุณได้ แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องปรับตัวและก้าวต่อไป ทีละเกม ทีละก้าว”

สำหรับแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ เกมกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในวันพุธนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญที่ทีมสามารถกลับมาคว้าชัยชนะและสร้างความมั่นใจให้กับทีมอีกครั้ง

เหตุการณ์ช็อกกลางสนาม เซเรีย อา เกม ฟิออ-อินเตอร์ ยกเลิกกลางคัน

เกมบิ๊กแมตช์ ฟิออเรนติน่า พบ อินเตอร์ มิลาน ในศึก เซเรีย อา สัปดาห์ที่ 14 ถูกยกเลิกกลางคัน หลังจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ เอดูอาร์โด้ โบเว่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 22 ปีของทีมเจ้าถิ่น หมดสติล้มลงกลางสนามในนาทีที่ 17

ทีมแพทย์รีบเข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน พร้อมนำตัวโบเว่ขึ้นรถพยาบาลส่งโรงพยาบาลทันที สถานการณ์นี้สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้เล่นทั้งสองทีมอย่างมาก โดยเฉพาะในขณะที่ผู้เล่นต่างหลั่งน้ำตาและจับกลุ่มรอฟังข่าว

ความโกรธและข้อกังวลเรื่องความล่าช้า

เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่คำถามเรื่องความล่าช้าของรถพยาบาลในการเข้าถึงสนาม หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าสนามที่กำลังปรับปรุงอาจมีส่วนในการขัดขวางการเข้าถึงของทีมกู้ภัย

การตัดสินใจหยุดเกมการแข่งขัน

ภายหลังจากการช่วยเหลือ โบเว่ ถูกส่งตัวไปรักษาตัว ทีมผู้จัดการแข่งขันตัดสินใจหยุดเกมโดยไม่มีการเตะต่อในวันเดียวกัน โดยคาดว่าจะเริ่มแข่งใหม่ในช่วงที่กำหนด โดยเริ่มต้นจากนาทีที่ 17

อโมริมพาแมนฯยู คว้าชัย! ฮอยลุนด์โชว์ฟอร์มเด่น พาทีมเฉือนโบโด กลิมท์ 3-2

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของ รูเบน อโมริม ประเดิมชัยชนะครั้งแรก หลังเปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฉือนชนะ โบโด กลิมท์ จากนอร์เวย์ไปแบบสุดมันส์ 3-2 ในศึกยูโรป้าลีก รอบลีกเฟส นัดที่ 5

ฮอยลุนด์โชว์ฟอร์มร้อนแรง ยิงสองพาทีมเก็บสามแต้ม

เกมนี้ ราสมุส ฮอยลุนด์ โดดเด่นสุด ๆ ด้วยการยิง 2 ประตู ช่วยให้ “ปีศาจแดง” เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงระบบของ รูเบน อโมริม ที่เลือกใช้แผนหลัง 3 เป็นครั้งแรก โดยมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นสำคัญ เช่น การกลับมาของ ไทเรลล์ มาลาเซีย ในตำแหน่งวิงแบ็คซ้าย และการให้โอกาส อันโตนี่ ในบทบาทวิงแบ็คขวา

วิเคราะห์เกมแบบละเอียด

ครึ่งแรก: การเริ่มต้นที่ดุเดือด

เริ่มเกมเพียง 2 นาที แมนฯยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำจากความผิดพลาดของ นิกิต้า ไฮคิ้น นายด่านทีมเยือน ทำให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงโล่ง ๆ เข้าไป

โบโด กลิมท์ไม่ยอมง่าย ๆ นาทีที่ 19 ฮาคอน เอฟเยน ปั่นสุดสวยตีเสมอให้ทีมเยือน จากนั้นไม่นาน ในนาทีที่ 23 ฟิลิป ซิงค์เกอร์นาเกล ยิงแซงนำให้โบโด กลิมท์ 2-1

ก่อนจบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะโชว์ความสามารถเฉพาะตัวของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำให้สกอร์เสมอ 2-2

ครึ่งหลัง: ฮอยลุนด์ปิดบัญชี

นาทีที่ 50 มานูเอล อูการ์เต้ เปิดบอลแม่นยำให้ ฮอยลุนด์ ชาร์จจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าตาข่าย แม้เช็ก VAR แล้ว แต่ไม่มีปัญหา ทำให้แมนฯยูไนเต็ดพลิกขึ้นนำ 3-2

แม้จะมีโอกาสเพิ่มสกอร์หลายครั้ง โดยเฉพาะจากการ์นาโช่ แต่ความเฉียบขาดที่ยังขาดไป ทำให้จบเกมด้วยชัยชนะ 3-2 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สถานการณ์ในยูโรป้าลีก

ชัยชนะนัดนี้ทำให้แมนฯยูไนเต็ดเก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 12 ของตาราง หลังผ่านไป 5 เกม

ผอ.ไลป์ซิกยืนยันไว้วางใจมาร์โก้ โรเซ่อ คุมทีมต่อ แม้ฟอร์มช่วงหลังแผ่ว

มาร์เซล เชเฟอร์ ผู้อำนวยการของ แอร์เบ ไลป์ซิก ยืนยันชัดเจนว่า สโมสรยังคงไว้วางใจในตัว มาร์โก้ โรเซ่อ และทีมสตาฟฟ์โค้ช แม้จะเผชิญกับปัญหาฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ในช่วงหลัง

ฟอร์มตกของไลป์ซิกส่งผลต่ออันดับในลีก

ไลป์ซิกไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลยใน 5 เกมหลังสุด ซึ่งส่งผลให้พวกเขาหล่นลงมาอยู่ในอันดับที่ 3 ของตาราง บุนเดสลีกา และเผชิญความเสี่ยงต่อการตกรอบในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย

เชเฟอร์ยืนยันยังเชื่อมั่นในทีมโค้ช

แม้ว่าความกดดันต่ออนาคตของ โรเซ่อ จะเพิ่มสูงขึ้น แต่เชเฟอร์ยังคงแสดงความเชื่อมั่นในตัวโค้ชและทีมงาน โดยกล่าวว่า:

“ผมเชื่อในทีมสตาฟฟ์โค้ชของมาร์โก้ และเชื่อในนักเตะ ผมได้ย้ำเรื่องนี้มาโดยตลอดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แน่นอนว่าเราต้องการผลลัพธ์ที่ดีในเร็ว ๆ นี้เพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาให้ได้ ที่ไลป์ซิก เราทุ่มเททุกอย่างเพื่อความสำเร็จ”

บรรยากาศใหม่เมื่อถึงปี 2024

บรรยากาศในสโมสรคาดว่าจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงต้นปีหน้า เมื่อ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลของ เรดบูลล์ กรุ๊ป

เชเฟอร์ยังพูดถึงบทบาทของคล็อปป์ในอนาคตว่า:

“เขาจะเข้ามาสนับสนุนเรา ให้คำแนะนำ และเราจะได้รับประโยชน์จากความรู้ของเขา โอลิเวอร์ มินท์ซลาฟฟ์ เสริมทีมได้อย่างยอดเยี่ยม คล็อปป์มีพลังและความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยม แต่เราคงต้องรอดูว่าเขาจะปรับตัวกับบทบาทใหม่นี้อย่างไร เมื่อไม่ได้ทำหน้าที่คุมทีมข้างสนามโดยตรง”